แซนวิชเป็นอีกหนึ่งอาหารว่างที่หาทานได้ง่าย และมีประโยชน์ ซึ่งปัจจุบันเรามีแซนวิชที่หลากหลาย สำหรับ แซนวิชโบราณ ก็เป็นแซนวิชหนึ่งที่มีผู้คนนิยมทานกันในสมัยวัยเด็ก ซึ่งมีรสชาติที่อร่อย น้ำเยิ้มไส้ทะลัก ไม่แพ้แซนวิชของต่างชาติเลย

แซนวิชโบราณ

ถ้าพูดถึง แซนวิชโบราณ  คงต้องย้อนวันวานไปสมัยเด็ก ๆ เลยที่อยากจะกิน แซนวิชโบราณ ก็หาซื้อได้ง่าย และในวัยเด็กนิยมกินแซนวิชโบราณมากเลย แต่ปัจจุบันจะหาซื้อตามท้องตลาดก็ยากพอสมควร เพราะรสชาติของแซนวิชโบราณอย่างส่วนผสมของนมข้นหวาน น้ำมันรำข้าว พริกไทยป่น มายองเนส ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ใส่ในแซนวิชโบราณทาบนขนมปังเยิ้ม ๆ  จึงทำให้หลาย ๆ คนติดใจในรสชาติ เมื่อได้กินแล้วอร่อยอย่าบอกใครกันเลย

วิธีทําแซนวิชโบราณ

สำหรับสูตรน้ำสลัดแซนวิชโบราณของ pimmy เป็นสูตรน้ำสลัดแซนวิชโบราณที่อร่อยมาก มีความโบราณที่คนสมัยก่อนนิยมนำมาทำเป็นน้ำสลัดราดบนแซนวิชกัน เพราะได้รสชาติของไข่ น้ำสลัด น้ำตาล นมข้นหวาน ที่ทุกอย่างมีความเข้ากันได้อย่างลงตัว สมแล้วกับคำว่า สูตรน้ำสลัดแซนวิชโบราณ วันนี้เราจะมาดูสูตรแซนวิชโบราณ Pimmy กันว่าใช้ส่วนผสมอะไรบ้าง ถึงได้น้ำสลัดที่อร่อยมากเลยทีเดียว

ส่วนผสมแซนวิชโบราณ Pimmy

( A ) ส่วนผสมน้ำสลัดแซนวิช (สูตรไข่แดงล้วน)

  1. ไข่แดงเบอร์ 0  2 ฟอง
  2. น้ำตาลทราย  100 กรัม
  3. มายองเสน 120 กรัม
  4. นมข้นหวาน 100 กรัม
  5. พริกไทยขาว 1 ช้อนชา
  6. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมัน 180 มิล เลือกน้ำมันที่กลิ่นไม่แรง เช่น รำข้าว ข้าวโพด
  8. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  9. สีผสมอาหาร สีเหลืองนิดหน่อย

(B) ส่วนประกอบแซนวิชโบราณ

  1. ขนมปัง
  2. น้ำสลัดแซนวิชโบราณ
  3. หมูหยอง
  4. โบโลน่าหมู

วิธีทำแซนวิชโบราณ Pimmy

  1. ใส่ไข่แดง น้ำตาล ลงในชาม แล้วใช้ตะกร้อตีไข่กับน้ำตาลให้เข้ากัน
  2. จากนั้นใส่นมข้นหวาน มายองเนส แล้วคนให้เข้ากัน
  3. นำไปตั้งไฟตุ๋นสัก 7-10 นาที หรือรอจนน้ำตาลละลายและไข่สุก โดยในระหว่างตุ๋นให้คนไปเรื่อย ๆ ด้วย
  4. ตอนนี้น้ำตาลละลายหมด เนื้อเนียนสวย ก็ยกลงจากเตาได้เลย
  5. ใส่พริกไทย น้ำส้มสายชู แล้วคนให้เข้ากัน
  6. ค่อย ๆ เทน้ำมันลงผสม และคนเรื่อย ๆ ผสมจนเข้ากันดี
  7. ใส่สีเหลืองนิดนึงลงไป เป็นอันเสร็จขั้นตอน
  8. เสร็จแล้วจะนำไปทาแซนวิชเลย หรือหากล่องเก็บในตู้เย็นไว้

มาต่อกันที่ทำแซนวิชส่วน B กันเลย

  1. ให้นึ่งโบโลน่าก่อน เพื่อแซนวิชจะได้อยู่ได้นาน ไม่บูดง่าย นึ่งไฟกลาง 5 นาที
  2. มาประกอบร่างแซนวิช โดยวางขนมปังทาน้ำสลัดแซนวิชสูตรโบราณให้ทั่วขนมปัง และวางโบโลน่า หมูหยอง ประกอบแซนวิชได้ตามใจชอบเลย ที่สำคัญต้องทาน้ำสลัดแซนวิชสูตรโบราณทุกแผ่นขนมปังนะ ด้วยการนำน้ำสลัดใส่ถุงบีบ แล้วบีบตามขอบขนมปัง จะเพิ่มความน่าทานให้กับแซนวิชโบราณมากเลย

ส่วนผสมสูตรน้ำสลัดแซนวิชโบราณ pantip

  1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  2. นมข้นหวาน 120 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 120 กรัม
  4. น้ำตาลทราบแดง 1 ช้อนโต๊ะ
  5. มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
  6. น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมันพืช 330 กรัม
  8. เกลือ 1 ช้อนชา
  9. สีผสมอาหารสีเหลือง 1-2 หยด

สำหรับตัวแซนวิช

  • ขนมปังแผ่น
  • หมูหยอง
  • แฮมหรือโบโลน่า ที่ต้มสุกแล้ว
  • น้ำสลัดโบราณ

วิธีทำสูตน้ำสลัดแซนวิชโบราณ

  1. นำหม้อทรงสูงใส่น้ำต้มน้ำให้ร้อน
  2. มาทำน้ำสลัดโบราณ โดยเริ่มจากการใส่ไข่ไก่ ตีกับน้ำตาลทราย นมข้นหวาน น้ำตาลทรายแดง เกลือ คนให้เข้ากัน
  3. นำส่วนผสมที่ตีเข้ากัน มาตั้งบนหม้อที่น้ำเดือด แล้วคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าไข่จะสุก ละน้ำตาลละลายจนหมด
  4. เมื่อสุกแล้ว ให้ยกลงคนให้คลายความร้อนสักพัก
  5. ใส่มัสตาร์ด สีผสมอาหาร ลงไป คนให้เข้ากัน
  6. นำน้ำส้มสายชู น้ำมันพืช ค่อย ๆ ทยอยใส่แล้วคนให้เข้ากันจนกว่าจะหมด แบ่งใส่ 3 รอบ รอบที่ 1 ใส่น้ำส้มสายชู น้ำมันพืช คนให้เข้ากัน ต่อรอบที่ 2 ใส่น้ำส้มสายชู น้ำมันพืช คนให้เข้ากัน  รอบที่ 3 รอบสุดท้าย ใส่น้ำส้มสายชู น้ำมันพืช คนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จขั้นตอน

วิธีทำแซนวิชโบราณ

  • วางขนมปังแล้วทาน้ำสลัดบาง ๆ แล้ววางโบโลน่า
  • วางขนมปังบนชั้นก่อนหน้านี้ทาน้ำสลัดและโรยหมูหยอง

วางขนมปังบนชั้นก่อนหน้าทาน้ำสลัดและวางโบโลน่าแล้วปิดทับด้วยขนมปังอีก 1 แผ่น 4.หั่นครึ่งตรงกลางเป็นสามเหลี่ยม

แซนวิชโบราณอยู่ได้กี่วัน

สำหรับคนที่ชอบทานแซนวิชโบราณ อาจจะทำน้ำสลัดสูตรโบราณในปริมาณมาก ๆ ซึ่งสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 30 วัน ส่วนแซนวิช ปกติแซนวิชจะอยู่ได้ 2-3 วัน คือแช่ในตู้เย็น เก็บได้ประมาณ 2-3 วัน และไม่ควรวางไว้ในอุณหภูมิห้อง  โดยวันนี้เรามีเคล็ดลับการเก็บรักษาแซนวิชมาฝากกันด้วย

  • ห่อพลาสติกแล้วแช่ตู้เย็นไว้ เก็บได้ประมาณ 2-3 วัน
  • ไม่ควรเก็บไว้ในอุณหถูมิห้อง
  • ไม่ต้องอุ่นร้อน สามารถทานได้ทันที

 

ถึงแม้ในปัจจุบัน เราจะหาทาน แซนวิชโบราณ กันได้ลำบากสักหน่อย ก็ไม่เป็นไร เพราะปัจจุบันมีสูตรทำแซนวิชโบราณตั้งมากมาย เราสามารถทำตามได้อย่างง่ายดาย วัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่าย ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากอะไร ซึ่งสามารถทำกินเองได้เลย หรือ อยากจะหารายได้เสริมก็ทำเป็นอาชีพเสริมได้อีก โดยการทำเป็นอาชีพเสริมนั้นถึงแม้เราจะต้องเตรียมวัสดุประเภท กล่องใส่แซนวิช ก็ตาม เราก็สามารถสั่งผลิตได้เองเลย เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลดภาระต้นทุนด้านแพกเกิจจิ้งได้อีกทาง

ด้วยการสั่งผลิตก็ไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการผลิตก็ไม่แพงราคาสมเหตุผลมาก อย่างโรงพิมพ์ JPRINT ที่เป็นโรงพิมพ์ชั้นนำให้บริการด้านการพิมพ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล มีอุปกรณ์ครบครัน ผลิตเองทุกขั้นตอนและใส่ใจในรายละเอียดงานพิมพ์ของลูกค้าทุกคนอย่างมืออาชีพ ให้คำแนะนำปรึกษาด้านการออกแบบแพจเกจจิ้งอย่างละเอียด ออกแบบโลโก้ แบรนด์สินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างสวยงาม และหากท่านใดสนใจสามารถเข้าชมผลงานของเราก่อนได้ที่ www.jprint.co.th  หรือหากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อมาได้ที่ JPRINT เราทีมงานยินดีต้อนรับลูกค้าทุกท่าน