ตัดตก
ในภาษาของแวดวงโรงพิมพ์เรามักจะได้ยินคำว่า ตัดตก ในทุกงานพิมพ์เสมอ แต่ถ้าหากคนทั่วไปอาจจะไม่เข้าใจกับคำว่า ตัดตก อย่างแน่นอน ซึ่งในโรงพิมพ์จะใช้ ตัดตก สำหรับการออกแบบงานพิมพ์ในการตั้งค่าระยะเผื่อพื้นที่ของงานทุกชิ้นงาน
สำหรับนักธุรกิจที่ต้องการจะพิมพ์งานกล่องพัสดุต่าง ๆ อาจจะต้องเรียนรู้ถึงการออกแบบงานพิมพ์และคำว่า ตัดตก ด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้งานพิมพ์ออกมาได้คุณภาพและสวยงามดั่งใจต้องการ
เนื่องจากการพิมพ์งานออกมาแต่ละครั้งไม่ว่าจะใช้เครื่องพิมพ์ระบบ Digital offset หรือ offset งานทุกใบที่พิมพ์ออกมาจะมีความคลาดเคลื่อนได้บ้าง หมุนซ้าย หมันขวา บนล่าง ซ้ายขวาเสมอ เพราะการตัดงานของโรงพิมพ์แต่ละครั้งจะตัดทีละร้อยๆ ใบ หากเราไม่ทำตัดตกเอาไว้ การตัดงานออกมาอาจจะเห็นเป็นขอบขาว ๆ ได้ ทำให้งานออกมาไม่สวย ดังนั้นคำว่า ตัดตกคืออะไร
ตัดตก คืออะไร
ตัดตก คือ การตั้งระยะเผื่อพื้นที่ของงาน ส่วนที่เป็นพื้นหลังให้กว้างกว่าขนาดของงานจริง เราจะตั้งส่วนนี้เผื่อไว้ประมาณ 3 มิลลิเมตร พร้อมให้สีและลวดลายของส่วนที่ตั้งระยะเผื่อเป็นสีและลวดลายเดียวกันกับพื้นหลัง การทำระยะตัดตกจะป้องกันให้งานพิมพ์ออกมาสวยงามและไม่มีขอบสีขาว
ทำไมต้องมีการตั้งระยะตัดตก
ถ้าไม่อยากให้ชิ้นงานออกมามีขอบขาวเหลือมออกมา จะต้องมีการตั้งระยะตัดตกไว้ด้วย เพราะการตั้งระยะเผื่อพื้นที่ของชิ้นงานไว้ เพื่อรองรับการถูกตัดชิ้นงาน หรือการเยื้องของวัสดุเวลาที่ใช้เครื่องจักร และเพื่อให้ชิ้นงานออกมาสวยงาม ด้วยการทำงานของเครื่องจักรไม่ว่าจะระบบดิจิตอลหรืออ๊อฟเซ็ตจะไม่สามารถพิมพ์หรือตัดชิ้นงานให้ตรงได้ 100 เปอร์เซ็นต์เท่ากันทุกชิ้นงานได้
ความสำคัญของการทำตัดตก
เนื่องจากการพิมพ์งานหนังสือทั่วไป จะพิมพ์เป็นยกแล้วนำแต่ละยกมาพับเพื่อรอการเข้าเล่มอีกที เมื่อเข้าเล่มแล้วจะต้องมีการตัดเจียนรูปเล่มรอบด้าน เพราะการพิมพ์จะพิมพ์เป็นยกแล้วพับมาวางทับซ้อนกัน หากไม่มีการตัดทั้งสามด้านจะไม่สามารถเปิดหนังสือได้ ระยะตัดตกที่ทำเผื่อมานั้นจะทำให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ ไม่มีขอบขาวเหลื่อมออกมา
การตั้งค่าระยะตัดตกและระยะปลอดภัย
ความสำคัญของการพิมพ์งานแต่ละชิ้นคือการตั้งค่าระยะตัดตกและระยะปลอดภัย เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการตัดกระดาษได้ เพื่อให้งานพิมพ์ออกมามีความสวยงามและมีคุณภาพของงานพิมพ์ที่ครบถ้วน
ซึ่งความคลาดเคลื่อนจากการตัดกระดาษจำแนกได้ดังนี้
- การตัดมีความคลาดเคลื่อนเข้า นั่นหมายความว่างานพิมพ์จำเป็นต้องถูกกำหนด หรือทำการออกแบบให้มีระยะปลอดภัยเรียกว่า Safety Margin
- การตัดมีความคลาดเคลื่อนออก นั่นหมายความว่าทุกงานพิมพ์จำเป็นต้องถูกกำหนด หรือได้รับการออกแบบให้มีระยะตัดตก หรือเรียกว่า Bleed
ทั้งหมดนี้ ระยะตัดตกจะป้องกันให้งานพิมพ์ไม่มีขอบสีขาว และระยะปลอดภัยจะทำให้ข้อมูลสำคัญไม่ถูกตัดออก
วิธีการตั้งค่าระยะตัดตก BLEED
- สร้างไฟล์
- เลือก Document Setup
- ตั้งค่า Bleed เป็น 3 mm. รอบด้าน
- กด OK แล้วจะมีเส้นสีแดงปรากฏรอบ Arboard ซึ่งคืออาณาเขตของระยะตัดตก
วิธีการตั้งค่าระยะปลอดภัย Safety Margin
- เลือก Rectangular Tool
- คลิกบนพื้นที่ใดบนหน้าจอ
- จะปรากฎหน้าต่างใหม่ ให้กำหนดขนาดของสี่เหลี่ยมโดยมีขนาดเล็กกว่าตัวงานจริงด้านละ 3 มม. ด้านกว้าง ด้านสูง ที่รวมแล้วความกว้างและความสูงจะมีค่าน้อยกว่าขนาดงานจริงด้านละ 6 มม.
- คลิก OK
ต่อไปเป็นการจัดสี่เหลี่ยมที่สร้างขึ้นให้อยู่กึ่งกลาง ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- เลือก Window – Align
- มุมขวาของหน้าต่างใหม่ กด More Option – Show Options
- เลือก Align Tool ตรงตัวเลือกมุมขวาล่าง ให้เลือก Align to Artboard
- กดไอคอน Horizontal Align Center และ Vertical Align Center เพื่อจัดตำแหน่งให้สี่เหลี่ยมอยู่กึ่งกลาง
- ให้คลิกขวาตรงตำแหน่งใดก็ได้ของหน้าจอ แล้วเลือก Make guides
- หน้าจอจะแสดงระยะตัดตก และระยะปลอดภัยให้เรียบร้อย ในการทำอาร์ตเวิร์ค ตัวงานออกแบบควรจะขยายออกให้ถึงขอบสีแดง และไม่ควรมีข้อมูลสำคัญอยู่เกินเส้นสีฟ้าด้านใน
ขั้นตอนการเตรียมไฟล์งานก่อนส่งโรงพิมพ์
เพื่อให้ได้ประโยชน์และแนวทางในการออกแบบ และเพื่อให้การออกแบบออกมาสวยงาม จะต้องมีการเตรียมไฟล์งานก่อนส่งโรงพิมพ์ ซึ่งมีขั้นตอนการเตรียมไฟล์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1.ตั้งค่าสีไฟล์งาน CMYK
การออกแบบงานพิมพ์ชนิดต่าง ๆ เราต้องตั้งไฟล์งานให้อยู่ในหมวด CMYK เสมอเพื่อให้สีของชิ้นงานไม่ผิดเพี้ยน
2.กำหนดค่าระยะของกระดาษ
การกำหนดค่าระยะของกระดาษ ค่าระยะ Bleed หรือระยะตัดตก กับ ระยะห่างของขอบกระดาษ Margin อยู่ที่ 3 mm. ซึ่งเป็นระยะพื้นที่ที่ปลอดภัยในการวางข้อความเพราะจะได้ไม่โดนเครื่องตัดออกไปในการออกแบบกราฟิก ก็ควรเผื่อระยะการพับกล่องด้วยเช่นกัน เนื่องจากการออกแบบในกระดาษ หรือ หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นแบบสองมิติ โดยการผลิตกล่องจริงนั้นเป็นแบบสามมิติ ที่ต้องมีการพับเหลี่ยมมุมต่าง ๆ ดังนั้นควรเผื่อระยะขอบกระดาษของแต่ละด้านให้มีระยะการพับกล่องไว้ด้วย เพื่อกันไม่ให้ข้อความชิดขอบข้างใดข้างหนึ่ง
3.สร้างโครงงาน Outline
การเปิดไฟล์งานจากเครื่องอื่น อาจทำให้ฟอนต์เปลี่ยนแปลงหรือคลาดเคลื่อนจากเดิม ดังนั้นเราควรทำการสร้าง Outline หรือ Font ก่อนเซฟไฟล์งานทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นอาจทำให้งานของคุณเปลี่ยนแปลงไปจากต้นฉบับได้
4.ตั้งค่าความละเอียดของไฟล์งาน
ถ้าหากใช้โปรแกรม Adobe Photoshop ควรตั้งค่าความละเอียดของไฟล์งานไว้ที่ 300 dpi แต่การออกแบบสามารถปรับย่อขยายโดยความละเอียดของไฟล์งานไม่แตก ต้องใช้โปรแกรม Adobe Illustrator แทนและเซฟไฟล์งานเป็นไฟล์ AI เพื่อสะดวกต่อการแก้ไขงานได้หากต้องการปรับเปลี่ยนแก้ไขก่อนส่งพิมพ์และเพื่อสะดวกต่อทางโรงพิมพ์ด้วย
5.การฝังลิงค์รูป
การฝังรูปภาพหรือฝังลิงค์รูปลงในไฟล์งาน จะทำให้ได้รูปภาพกลายเป็นส่วนหนึ่งของไฟล์งานด้วยเช่นกัน เมื่อทางโรงพิมพ์เปิดงานรูปภาพก็จะปรากฏในทุกเครื่องเช่นกัน
6.ตรวจสอบขนาดของไดคัท
ในการผลิตกล่อง ความสำคัญเลยคือการตรวจสอบขนาดของไดคัท เนื่องจากงานไดคัทกล่องกับงานออกแบบต้องทำพร้อมกัน และที่สำคัญควรวัดขนาดของสินค้าจริงพร้อมทำไดคัทกล่องจริงก่อนออกแบบทุกครั้ง เพื่อให้ได้งานของขนาดสินค้าที่
แน่นอนก่อนไปออกแบบ และการผลิตก็จะไม่เกิดข้อผิดพลาดด้วย
โรงพิมพ์เจปริ้นท์ คือ โรงพิมพ์ระบบออฟเซ็ท ที่ดำเนินการมามากว่า 20 ปี ด้วยระบบพิมพ์ออฟเซ็ทที่พิมพ์งานได้คุณภาพที่คมชัดทุกชิ้นงาน ภายใต้ระบบ ISO 9001:2015 ด้วยการใช้วัสดุและกระดาษคุณภาพดี ระบบหมึกพิมพ์ถั่วเหลืองฟู๊ดเกรด พร้อมเครื่องจักรที่ทันสมัยรองรับงานพิมพ์คุณภาพทุกชิ้นงาน อยู่ในขบวนการผลิตที่โรงพิมพ์ JPRINT เอาใจใส่ในทุกชิ้นงานอย่างเต็มกำลัง รวมถึงบริการการตัดตัวอย่างสินค้าเสมือนจริงก่อนผลิต โดยที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจในการผลิตที่ครบวงจรในที่เดียว
จะเห็นได้ว่าการตั้งระยะ ตัดตก มีความสำคัญสำหรับงานพิมพ์ทุกชิ้น ดังนั้นเพื่อให้งานออกมาสวยงามต้องตั้งระยะตัดตกให้เรียบร้อยก่อนส่งไฟล์งานให้โรงพิมพ์ และที่สำคัญอย่าวางเนื้อหาของหนังไว้ชิดขอบกระดาษมากไป เพราะโอกาสที่จะถูกตัด
เนื้อหาส่วนนั้นมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง รวมถึงการเตรียมไฟล์งานต่าง ๆ ให้กับโรงพิมพ์เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ เพราะจะทำให้งานออกแบบของเรามีมาตรฐานและเป็นไปตามที่ต้องการ
ทางโรงพิมพ์เจปริ้นท์ หวังว่าเนื้อหาทั้งหมดที่เรานำมาฝากกันนี้จะช่วยทำให้วางแผนการเตรียมไฟล์งานก่อนส่งผลิตกล่องได้ง่ายมากขึ้น แต่หากท่านใดยังสงสัยขั้นตอนการเตรียมงานต่าง ๆ ให้โรงพิมพ์ JPRINT เป็นผู้ช่วยมือหนึ่งของท่านในการออกแบบงาน เตรียมไฟล์งานก่อนส่งผลิตให้กับท่าน ด้วยทีมงานนักออกแบบมืออาชีพเราให้คำปรึกษากับท่านฟรี เพื่องานของท่านจะได้ออกมามีคุณภาพและสวยสมบูรณ์แบบสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่านสามารถเข้าชมผลงานของเราก่อนได้ที่ Jprint.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง
One Comment
[…] อ่านเพิ่มเติม การทำขอบตัดตก และการเตรียมไฟล์ส่งโ… […]